สิทธิประโยชน์ของ “ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง” จากประกันสังคม หากทุพพลภาพจะได้รับอะไรบ้าง?
วันนี้มาอัพเดทข้อมูล เกี่ยวกับการขอสิทธิและเงินชดเชยสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่อยู่ในวัยทำงาน มีการประกันตนกับกองทุนประกันสังคมไว้ แล้วเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตเฉียบพลัน เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยค่ะ
สิทธิประโยชน์ของ “ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง” จากกองทุนประกันสังคม หากทุพพลภาพจะได้รับอะไรบ้าง?
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะทุพพลภาพ เข้าหลักเกณฑ์ การบาดเจ็บของสมอง เป็นเหตุให้สูญเสียความสามารถของอวัยวะร่างกายจนไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้และต้องมีผู้อื่นช่วยดูแล จะได้รับการคุ้มครองสิทธิ มีเงินสนับสนุนค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ รวมถึงชดเชยรายได้ ดังสรุปนี้ค่ะ
เลือกอ่านที่สนใจ
-
สิทธิการรักษาพยาบาลในช่วงเจ็บป่วยฉุกเฉิน
-
กรณีทุพพลภาพ
-
ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์
-
ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพ
-
ค่าพาหนะกรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์
-
เงินทดแทนการขาดรายได้ พร้อมขั้นตอนการยื่นขอ
-
สรุปส่งท้าย
1. สิทธิการรักษาพยาบาลในช่วงเจ็บป่วยฉุกเฉิน
ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- กรณีเข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลรัฐ:
- ผู้ป่วยนอก (OPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง
- ผู้ป่วยใน (IPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
- กรณีเข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลเอกชน:
- ผู้ป่วยนอก (OPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 1,000 บาท หรือ เกิน 1,000 บาทได้ หากมีการตรวจรักษาตามรายการในประกาศของคณะกรรมการการแพทย์
- ผู้ป่วยใน (IPD)
- กรณีที่ไม่ได้รักษาในห้อง ICU เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท ค่าห้องและค่าอาหาร ไม่เกินวันละ 700 บาท
- กรณีที่รักษาในห้อง ICU เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง และค่าอาหาร ได้รวมไม่เกินวันละ 4,500 บาท
- ผ่าตัดใหญ่ เบิกได้ไม่เกินครั้งละ 8,000-16,000 บาท
- ค่ายา และค่าอุปกรณ์ เบิกได้ไม่เกิน 4,000 บาท
- ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่าเอกซเรย์ เบิกได้ไม่เกิน 1,000 บาท
ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต
เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
2. กรณีทุพพลภาพ
- ทุพพลภาพระดับเสียหายไม่รุนแรง รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% หรือในส่วนที่ลดลง ไม่เกิน 30% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ไม่เกิน 180 เดือน
- ทุพพลภาพระดับเสียหายรุนแรง รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ตลอดชีวิต
กรณีเจ็บป่วยปกติ:
- เข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลรัฐ – ผู้ป่วยนอก (OPD) รับค่าบริการทางการแพทย์ตามที่จ่ายจริง และผู้ป่วยใน (IPD) เข้ารับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- เข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลเอกชน – ผู้ป่วยนอก (OPD) รับค่าบริการทางการแพทย์ตามที่จ่ายจริง ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท และผู้ป่วยใน (IPD) ไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต:
เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
3. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ 40,000 บาท
เพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงาน และหากมีความจำเป็นให้จ่ายเพิ่มได้ ไม่เกิน 140,000 บาท แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 180,000 บาท (ตามคณะกรรมการแพทย์พิจารณา)
การฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงาน ดังนี้
ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- กายภาพบำบัด ไม่เกิน 200 บาท/วัน
- กิจกรรมบำบัด ไม่เกิน 100 บาท/วัน
- รวมแล้วไม่เกิน 24,000 บาท
4. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพ ฟรี
ทางประกันสังคมมีหลักสูตรให้ผู้ทุพพลภาพ เลือกได้ตามความถนัด 22 หลักสูตร โดยเข่าร่วมที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานทั่วประเทศ
ลูกจ้างจะได้รับค่าฟื้นฟูและจะต้องรับการฟื้นฟูที่ศูนย์ต่อไปนี้เท่านั้น
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 1 จ.ปทุมธานี
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 2 จ.ระยอง
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 3 จ.เชียงใหม่
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จ.ขอนแก่น
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 5 จ.สงขลา
5. ค่าพาหนะกรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์
ค่าพาหนะกรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายไม่เกิน เดือนละ 500 บาท
6. เงินทดแทนการขาดรายได้ พร้อมขั้นตอนการยื่นขอ
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างตลอดชีวิต
ขั้นตอนการยื่นขอเงินทดแทนการขาดรายได้
ผู้ประกันตนทุกมาตราสามารถดาวน์โหลดเอกสารแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01) ได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th พร้อมแนบเอกสารประกอบเพื่อยื่นขอเงินทดแทนการขาดรายได้ ซึ่งได้แก่
- ใบรับรองแพทย์
- หนังสือรับรองจากนายจ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน
- สถิติวันลาป่วยของผู้ยื่นคำขอ
- หลักฐานอื่น ๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา
- สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารหน้าแรก
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วให้ส่งไปรษณีย์ไปที่สำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนต้องยื่นรับผลประโยชน์ทดแทนภายใน 2 ปีเท่านั้น
*ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนทุพพลภาพ (ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการทำงาน) จึงจะได้รับสิทธิ
สรุปส่งท้าย
จะเห็นว่าผู้ประกันตน สามารถติดต่อขอรับสิทธิประโยชน์หากเจ็บป่วยได้ ตั้งแต่ช่วงเจ็บป่วยฉุกเฉินเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงช่วงฟื้นฟูร่างกาย กายภาพบำบัด และเงินชดเชยจากการขาดรายได้ การยื่นขอรับเงินชดเชย มีรายละเอียด กรอบระยะเวลาที่จะยื่นขอได้ จึงต้องศึกษาให้ดี เพื่อไม่ให้เสียโอกาสของผู้ประกันตนนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
หมอจึงหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังมองหา ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลคนที่เรารักนะคะ
บทความโดย
หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท