ข้อควรระวังในคนไข้ที่กินยาวาร์ฟาริน
ยาวาร์ฟาริน คือยาในกลุ่ม "ยาต้านการแข็งตัวของเลือด" หรือเรียกว่ายาละลายลิ่มเลือด ใช้เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด รวมถึงลิ่มเลือดที่อาจไปอุดตันตามหลอดเลือดในอวัยวะต่างๆ เช่น หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดปอด หลอดเลือดดำขา เป็นต้น วันนี้หมอจะมาแชร์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ "ข้อควรระวังในคนไข้ที่กินยาวาร์ฟาริน"
ยาตีกัน! - ยาบางชนิดมีผลทำให้ระดับยาวาร์ฟารินในเลือดเปลี่ยนแปลง
ยาที่เพิ่มฤทธิ์ของวาร์ฟาริน เช่น
- ยาแก้ปวด(Piroxicam, Indomethacin)
- ยาฆ่าเชื้อ(Co-trimoxazole, Ciprofloxacin)
ยาที่ลดฤทธิ์ของวาร์ฟาริน เช่น
- ยากันชัก(Carbamazepine, Phenytoin)
- ยาฆ่าเชื้อ(Rifampicin, Dicloxacillin)
อาหารที่เสริมฤทธิ์การทำงานของยาวาร์ฟาริน = เลือดออกง่าย
- มะม่วง
- มะละกอ
- Grapefruit juice
- น้ำมันตับปลา
- อาหารเสริมประเภทกลูโคซามีน
- กระดูกอ่อน
อาหารที่ลดฤทธิ์การทำงานของยาวาร์ฟาริน = อุดตันง่าย
- ตับ
- ผักใบเขียว เช่น คะน้า บล็อกโคลี กะหล่ำปลี ผักขม ถั่วเขียว
- ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
- เห็ด
- อะโวคาโด
- สาหร่ายทะเล
เคล็ดลับแนะนำ
- หากรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ควรเปลี่ยนแปลงปริมาณอาหารที่รับประทานจากเดิม เนื่องจากจะส่งผลให้ค่า INR เปลี่ยนแปลงไป
- ไข้, ภาวะติดเชื้อ ทำให้เพิ่มฤทธิ์ของยาวาร์ฟาริน เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกง่ายขึ้น
บทความโดย
หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท