เคล็ดลับ! การจัดการเสมหะในผู้ป่วย เพื่อป้องกันปอดอักเสบ
การจัดการเสมหะในผู้ป่วยเพื่อป้องกันปอดอักเสบมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเสมหะที่ค้างอยู่ในทางเดินหายใจอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดได้ ดังนั้นเราควรดูแลและจัดการเสมหะให้ถูกวิธี
1. การดื่มน้ำเพียงพอ
- ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำอุ่นปริมาณที่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย เพื่อช่วยละลายเสมหะและเพิ่มปริมาณของเสมหะที่ออกมา
2. การใช้เครื่องช่วยดูดเสมหะ
- หากเสมหะมีปริมาณมากและมีอาการทางเดินหายใจ ควรใช้เครื่องดูดเสมหะ (suction device) เพื่อช่วยลดปริมาณเสมหะที่คั่งค้าง ลดการสำลักเสลด/เสมหะลงปอด
3. ทำกายภาพบำบัดช่วยขับเสมหะ (Chest Physiotherapy)
- ใช้เทคนิค เช่น การเคาะปอด การสั่นปอด หรือการจัดท่าเพื่อระบายเสมหะออกจากกลีบปอด เพื่อช่วยให้กำจัดเสมหะออกไปจากทางเดินหายใจ
4. การใช้ยาละลายเสมหะ (Mucolytic)
- สามารถใช้ยาละลายเสมหะ (mucolytic agents) เพื่อช่วยละลายเสมหะในทางเดินหายใจ ทำให้ง่ายต่อการไอขับออกมา
5. การดูแลท่านอน
- จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่เหมาะสม เช่น นอนตะแคงหรือนอนคว่ำเอน เพื่อช่วยให้เสมหะถูกลำเอียงออกมาจากกลีบปอด>>ขั้วปอด และสามารถไอออกมาได้ง่ายขึ้น
6. การออกกำลังกายเบาๆ
- การออกกำลังกายเบาๆหรือการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย สามารถช่วยให้ขับเสมหะออกง่ายขึ้น
การจัดการเสมหะให้ถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปอดอักเสบและสุขภาวะที่ดีของผู้ป่วยในระยะยาว อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยมีเสมหะมาก ข้นเหนียว ไข้สูง หรือไอรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการเสมหะในผู้ป่วย/ผู้สูงอายุเพิ่มเติม
เสมหะที่ค้างอยู่ในปอดเป็นแหล่งเพาะเชื้อที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ เกิดเป็นปอดอักเสบ หรือหากเสมหะคั่งค้างตามหลอดลม ก็จะเกิดหลอดลมอักเสบได้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วยที่ต้องจัดการ ไม่ควรละเลยการหาสาเหตุและการแก้ไข เนื่องจากอาจนำมาสู่การติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคปอดอักเสบ อันตรายถึงเสียชีวิตได้
บทความที่น่าสนใจ
บทความโดย
หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท