ข้อควรระวังในการให้อาหารทางสายยาง

การให้อาหารทางสายที่ผ่านจมูกสู่กระเพาะอาหาร (Nasogastric tube) เป็นวิธีที่ง่าย ใชสะดวกวิธี แต่ต้องฝึกทำ และเรียนรู้ข้อควรระมัดระวังต่างๆ โดยคาดว่าผู้ป่วยจะสามารถกลับมารับประทานอาหารทางปากตามปกติ การให้อาหารทางสายยางนั้นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ

ข้อควรระวังในการให้อาหารทางสายยาง

ข้อควรระวังในการให้อาหารทางสายยาง

  • อย่าลืม! ทดสอบตำแหน่งของสายว่าอยู่ในกระเพาะอาหารก่อนให้อาหารทุกครั้ง

  • ระมัดระวังไม่ให้ลมผ่านเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วยทางสายยางให้อาหารหรือผ่านเข้าได้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันภาวะท้องอืดในผู้ป่วย

  • การให้อาหารหยดจากขวดมักมีปัญหาเรื่องการแยกชั้นจากน้ำ และอุดตันบริเวณข้อต่อ ผู้ดูแลต้องหมั่นตรวจสอบอัตราการไหลและเขย่าขวดบรรจุเป็นระยะ

  • การเปลี่ยนสายให้อาหาร ตามปกติสายให้อาหารที่ใช้กับผู้ป่วยมักจะใช้ได้นานประมาณ 1 เดือนหรือน้อยกว่านั้น เมื่อเห็นว่าสายขุ่นสกปรก หรือมีอาหารอุดตันทำให้อาหารไม่สามารถไหลลงไปได้หรือสายให้อาหารรั่ว(สังเกตจากมีน้ำหรือเศษอาหารซึมออกมาในช่วงให้อาหาร/ให้ยา)

  • จำเป็นต้องเปลี่ยนสายให้อาหารใหม่เสมอ ไม่ต้องรอจนถึง 1 เดือน

  • จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูงระหว่างให้อาหารและภายหลังให้อาหารอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของอาหารขึ้นมาทางจมูก เสี่ยงต่อการสำลกอาหารและติดเชื้อของปอด

บทความน่าสนใจ

 

บทความโดย

หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท