การกำจัดกลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในการดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง

การกำจัดกลิ่นปัสสาวะ กลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในการดูแล ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง เป็นปัญหาที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงมักพบเจอ หลายบ้านมีปัญหากลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องนอนผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง ทำให้บ้านบรรยากาศไม่ดี กลิ่นไม่สะอาด ไม่น่าพักอาศัย 

การกำจัดกลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในการดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง

อันดับแรก หมอขอแนะนำให้ ลองพิจารณาสาเหตุ ดัง 4 ข้อที่พบบ่อยดูก่อน หากพบสาเหตุ ญาติผู้ดูแลจะได้จัดการกับปัญหาได้ตรงจุด

เช่น หากผู้ป่วยไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ หรือไม่สามารถบอกได้ว่าปวดปัสสาวะ อาจใช้วิธี ใส่แพมเพิส และกำหนดเวลาเปลี่ยนแพมเพิสตามรอบเวลา เช่น ทุก 6 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน เป็นต้น ปัสสาวะจะได้ไม่เปียกแพมเพิสและส่งกลิ่นเหม็นอับติดตัวผู้ป่วย และห้องนอน ส่งกลิ่น สร้างบรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์ในบ้านค่ะ   

เนื่องจากที่โรงพยาบาลมีการฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ การรักษาความสะอาดที่เป็นระบบ น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ได้มาตรฐานทำให้สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้ แต่เราที่ดูแลผู้ป่วยเองที่บ้านก็สามารถกำจัดกลิ่นอับเหม็นพวกนี้ได้เช่นกัน 

โดยมีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่นำมาตรฐานของโรงพยาบาลมาประยุกต์ใช้ในบ้านกันให้ทุกคนแบ่งปันไปใช้ได้ค่ะ

เลือกอ่าน...

  • วิธีการจัดบ้าน/จัดห้องให้ผู้ป่วย
  • อุปกรณ์ที่หาซื้อมาเป็นตัวช่วยได้
  • วิธีทำความสะอาดผ้ายางรองเตียง 
  • วิธีทำความสะอาดหากปัสสาวะเกิดซึมเปื้อนลงไปถึงเตียง 

    การจัดห้องให้ผู้ป่วย  

    1. ห้องผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ  ควรเน้นจัดห้องให้อากาศถ่ายเทได้ดี ระบายอากาศให้โปร่งสบาย อาจใช้วิธีการเปิดหน้าต่าง ประตูในเวลากลางวัน เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ รับลมสบายๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยระบายกลิ่นอับต่างๆ การรับแสงแดง ได้ยินเสียงธรรมชาติภายนอกสำหรับผู้สูงอายุยังช่วยป้องกันภาวะสับสน เพ้อ ในผู้สูงอายุได้อย่างดีเลยค่ะ   
    2. ติดมุ้งลวดเพื่อกันสัตว์และแมลง  อย่างไรก็อย่าลืมใส่ใจในความปลอดภัย โดยเฉพาะในผู้ป่วยมีภาวะหลงลืม หรือความจำเสื่อม ต้องระมัดระวังผู้ป่วยที่จะลุกเดินออกจากห้อง ออกจากบริเวณบ้านไปก็เป็นสิ่งที่หมออยากขอให้ระมัดระวังด้วย
    3. เปิดพัดลมหรือแอร์  เพื่อลดความร้อนและเหม็นอับ ช่วยระบายกลิ่นอับไม่พึงประสงค์
    4. กำจัดขยะและของเสียที่ไม่ใช้แล้วให้ออกจากบ้าน  อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง ไม่ให้หมักหมมเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นไม่พึงประสงค์

    อุปกรณ์ตัวช่วย 

    การกำจัดกลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในการดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง

    ญาติหลายท่านคงเคยประสบกับปัญหากลิ่นเหม็นอับ หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เตียงผู้ป่วย ทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวผู้ป่วยดูไม่สดชื่น อับชื้น บางครั้งก็กลายเป็นกลิ่นติดตัวคนไข้ ทำให้คนใกล้ชิดเบือนหน้าหนีไม่อยากเข้าใกล้ วันนี้หมอขอเสนอตัวช่วย

    อุปกรณ์ตัวช่วยที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาหรือร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ทั่วไป ของพวกนี้ราคาไม่แพงค่ะ ลองนำไปใช้ที่เตียงผู้ป่วยกันนะคะ

    1. ผ้ายางแบบขวาง กันน้ำ กันปัสสาวะรดซึม

      • ปูผ้ายาง-ผ้าขวางรองบนเตียงนอนแบบที่ใช้ในโรงพยาบาล ปูชั้นล่าง ก่อนปูผ้าปูเตียงทับ เพื่อให้ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด และปัสสาวะไม่ซึมลงไปในตัวฟูกหรือที่นอน
    เคล็ดลับเพื่อนำไปใช้จริง
    จากประสบการณ์ที่พบมา หากผู้ป่วยนอนดิ้นเยอะ ผ้าปูก็อาจเลื่อน ไม่อยู่ตำแหน่งที่จะรองรับปัสสาวะได้ 
    วิธีแก้ไข
    การเลือกซื้อผ้ายางขวาง ให้ซื้อที่มีขนาดยาวประมาณ 2.5-3 เท่าของความกว้างเตียงค่ะ ราคาอาจเท่ากันหรือแพงกว่าไม่มาก แต่ผ้ายางขวางแบบยาวนี้จะสามารถเหน็บลงไปใต้ฟูกได้แน่นขึ้น ทำให้ผู้ป่วยดิ้นไปมาแค่ไหนก็ไม่หลุดออกจากตำแหน่งเดิม (ข้อดีอีกอย่างของผ้ายางขวาง ยังสามารถเอาไว้ช่วยพลิกตัวผู้ป่วย​ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเตียงได้อีกด้วย)

    2. ผ้าปูเตียงแบบกันน้ำทั้งผืน 

      • เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำ อาจเลือกใช้ผ้าปูเตียงแบบกันน้ำทั้งผืน รองเป็นชั้นแรก แล้วจึงปูผ้าปูเตียงธรรมดาทับอีกที
    เคล็ดลับเพื่อนำไปใช้จริง
    ข้อเสียของผ้าปูเตียงกันน้ำแบบทั้งผืนนี้คือ ผู้สูงอายุบางคนจะร้อน อับ และมีผดผื่นขึ้นบริเวณหลัง ที่สัมผัสที่นอนได้ แต่หากเปิดแอร์ อากาศเย็นสบายอยู่แล้ว ผ้าปูเตียงแบบกันน้ำนี้ก็เป็นทางเลือกน่าสนใจค่ะ

    3. ปลอกหนังสังเคราะห์หุ้มฟูกเดิม 

      • วิธีนี้อาจยุ่งยากหน่อย แต่เป็นวิธีที่ตามโรงพยาบาลใช้กันบ่อยคือใช้เป็นหลอกหนังหุ้มฟูกทั้งหลังเลย
      • หรืออาจซื้อฟูกสำหรับคนไข้ที่หุ้มด้วยวัสดุกันน้ำก็ได้ทั้งหลังเลยก็ได้เช่นกัน
    เคล็ดลับเพื่อนำไปใช้จริง
    ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับญาติผู้ดูแลที่กำลังตัดสินใจซื้อเตียงผู้ป่วย หรือเตียงใหม่ อาจสอบถามข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมจากผู้ขายว่า มีฟูกเตียงที่วัสดุกันน้ำทั้งหลังเลยหรือไม่ค่ะ จะได้สะดวกต่อการทำความสะอาด เพียงแค่เช็ดคราบออก พึ่งแดดบ้างตามสมควรก็จะไม่มีกลิ่นอับแล้วค่ะ  

    วิธีทำความสะอาดผ้ายาง ผ้าปูเตียงแบบกันน้ำ 

    ขั้นตอนการทำความสะอาดผ้ายาง ผ้าปูเตียงแบบกันน้ำที่สกปรก ดังนี้

    1. กางผ้ายางออกบนราวตากผ้าแล้วฉีดน้ำชะล้าง
    2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวฉีดทิ้งไว้ประมาณ 30-60นาที 
    3. ฉีดล้างน้ำเปล่าอีกรอบ
    4. ตากแดดให้แห้ง

    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

    การใส่ใจกับการซักล้างเมื่อเปรอะเปื้อนควรกำหนดตารางทำความสะอาดเป็นประจำ

    ผ้ารองนอนคาดเตียง เสื้อผ้าผู้ป่วย
    • ควรเปลี่ยนทุกวัน และหากเป็นไปได้ แนะนำให้ซักทุกวัน นำไปตากแดดจัดทุกวันเลย 
    • เพราะการหมักหมมไว้ซักทีเดียววันสุดสัปดาห์เชื้อโรคก็จะก่อตัวสะสมมากขึ้น สร้างกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อยุ่ในตัวบ้านตลอดเวลาจนสุดสัปดาห์เช่นกัน
    เครื่องใช้อื่นๆ เช่นโถรองนั่งปัสสาวะ/อุจจาระ  หม้อนอนสำหรับขับถ่าย 
    เมื่อมีน้ำปัสสาวะในโถหรือหม้อนอนสำหรับขับถ่าย ต้องเททิ้งลงชักโครกกดน้ำเลยทันที ไม่ควรนำไปวางทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยล้างทำความสะอาดทีเดียวช่วงเย็น เพราะจะก่อให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ แม้ว่าจะมีฝาปิดมิดชิดแค่ไหนก็ตาม 

    วิธีทำความสะอาดหากน้ำปัสสาวะเกิดซึมเปื้อนลงไปถึงฟูกเตียง 

    แต่หากปัสสาวะเกิดซึมเปื้อนลงไปถึงฟูกเตียงชั้นล่าง…
    การกำจัดกลิ่นปัสสาวะ กลิ่นฉี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในการดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียงก็ไม่ได้ยากเลย

    จากประสบการณ์การกำจัดกลิ่นฉี่บนที่นอนในผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียงมีหลากหลายเทคนิกให้ลองนำไปใช้กัน ดังนี้

    1. ควรทำความสะอาดในทันที สำหรับฉี่ที่พึ่งฉี่ใหม่หรือเป็นคราบหมาดๆ ควรทำความสะอาดในทันที เพื่อไม่ให้คราบซึมลึกลงไปบนผ้าปูที่นอน โดยใช้ผ้าเช็ดและกระดาษทิชชูหนาๆ ซับลงบนคราบ เพื่อให้แห้งไวที่สุด
    2. ใช้ผ้าชุบน้ำมาวางไว้บนคราบ หลังจากใช้กระดาษทิชชูหนาๆ ซับลงบนคราบ จากนั้นให้นำผ้าชุบน้ำมาวางไว้บนคราบ และค่อยๆนำน้ำสะอาดเทลงไปทีละน้อยๆ จนทั่วบริเวณคราบฉี่แล้วค่อยๆกดซับคราบออกมาให้ได้มากที่สุด
    3. การใช้น้ำส้มสายชูก็ได้ผลดี เริ่มต้นด้วยการรีบซับคราบฉี่ด้วยกระดาษทิชชู่ หรือผ้าขี้ริ้ว หรือผ้าขนหนู โดยพยายามให้แห้งเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้คราบไม่ลงลึกมาก และควรใช้กระดาษหนังสือพิมพ์มาวางด้านบนผ้าขนหนูที่ใช้ซับด้วยเพื่อให้สามารถดูดความชื้นได้ดีขึ้น ซับจนกว่าคราบฉี่จะแห้งเมื่อคราบฉี่แห้งแล้วให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดคราบออกให้ได้มากที่สุด หรือผสมน้ำในกระบอกฉีดน้ำหลังจากนั้นให้ฉีดพรมลงบนคราบฉี่ให้ทั่วแล้วทิ้งไว้สักพัก ก็สามารถกำจัดกลิ่นฉี่ได้
    4. แป้งฝุ่นก็สามารถใช้ได้ดี กรณีมีแป้งฝุ่นสามารถใช้ได้ดีเช่นกัน โดยโรยแป้งฝุ่น หรือ เบกกิ้งโซดา ไปบริเวณที่มีรอยฉี่ให้ทั่วเพื่อขจัดและดูดซับกลิ่นฉี่
    5. "ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์" ตัวช่วยขจัดคราบ เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อฤทธิ์อ่อน ซึ่งไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์นั้นเป็นสารละลายที่สามารถใช้ทำความสะอาดได้ดี มีความปลอดภัยค่อนข้างมาก จึงได้รับความนิยมนำมาเป็นสารทำความสะอาดในกรณีที่ต้องการกำจัดกลิ่น และคราบต่างๆ ที่กำจัดได้ยากนั่นเอง 
    • การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์กำจัดกลิ่นต้องใช้ร่วมกับ แอมโมเนีย เบกกิ้งโซดา ผงซักฟอกเล็กน้อย ขั้นตอนในการดับกลิ่นจากไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ไม่ยุ่งยากเลย
      • เริ่มจาก "การใช้น้ำอุ่นเทลงไปบนคราบฉี่เพื่อฆ่าเชื้อโรค จากนั้นให้นำแอมโมเนีย 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 1 ถ้วย แล้วเช็ดคราบบนที่นอนให้ออกได้มากที่สุด จากนั้นผสมไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 1 ถ้วย เบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ ผงซักฟอกเล็กน้อย ใส่กระบอกฉีดแล้วนำไปฉีดบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ให้แห้ง"
      • *จะให้ได้ผลดีเมื่อไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ที่ฉีดลงไปแห้งแล้ว* 
      • ควรซักที่นอนเฉพาะจุดนั้นด้วยน้ำยาซักแห้ง แชมพู หรือผงซักฟอกก็ได้ จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกให้หมดแล้วทิ้งไว้จนแห้ง ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำที่นอนไปตากแดดอีกครั้ง หรือเปิดผ่าม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาถึงที่นอน เพียงเท่านี้ก็สามารถดับกลิ่นฉี่บนที่นอนได้

    6. การใช้น้ำยาทำความสะอาดและขจัดกลิ่น อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีดับกลิ่นฉี่บนที่นอนซึ่งสามารถทำได้ง่ายที่สุด เมื่อท่านพบว่ายังมีกลิ่นฉี่หลงเหลืออยู่ ทุกท่านอาจจะใช้ น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาขจัดกลิ่น วิธีการนี้เพียงแค่ใช้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนูซับคราบฉี่ให้แห้ง จากนั้นฉีดสเปรย์ทำความสะอาด และกำจัดกลิ่นลงไป แต่ที่ลืมไม่ได้คือต้องเปิดหน้าต่างเพื่อให้กลิ่นอับสามารถระบายออกไปได้ด้วย จะใช้พัดลมช่วยเป่าด้วยก็ได้ เมื่อที่นอนแห้งกลิ่นฉี่บนที่นอนก็จะหายไปด้วย

    การดับกลิ่นปัสสาวะ กลิ่นฉี่บนที่นอนรวมไปถึงคราบต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะจัดการด้วยตัวเอง ซึ่งการดับกลิ่นฉี่บนที่นอนนั้นสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับความสะดวก และความเหมาะสม แต่ข้อสำคัญของวิธีดับกลิ่นฉี่บนที่นอนนั้นต้องพยายามทำให้ที่นอนแห้งที่สุดหลังการทำความสะอาด ด้วยการนำที่นอนที่ทำการดับกลิ่นแล้วไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ 

    คราบปัสสาวะ หากทิ้งไว้ ไม่ทำความสะอาด จะทำให้คราบเหล่านั้นฝังลึกลงไป ยิ่งทำให้ทำความสะอาดยากมากขึ้น ฉะนั้นเมื่อเกิดคราบจึงควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อให้ที่นอนคุณสะอาด ปราศจากคราบสกปรกต่างๆ      

    สรุปส่งท้าย...

    สิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้ทุกท่านลืมคือการซักทำความสะอาดผ้าที่เปื้อนรอยฉี่ซ้ำอีกครั้ง ด้วยน้ำและผงซักฟอก แล้วล้างให้สะอาด ก่อนนำผ้าที่ซักแล้วไปตากแดด เพื่อรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคไปในตัว  
    นอกจากนี้ ความสะอาดที่ตัวผู้ป่วยก็สำคัญมากเช่นกัน
    ถ้าเราทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอื่นๆ แต่ไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายให้ผู้ป่วยอย่างถูกต้อง กลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายก็จะไม่หายไปไหน จึงต้องหมั่นอาบน้ำ เปลี่ยนแพมเพิส เช็ดล้างทำความสะอาดอวัยวะขับถ่ายแก่ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียงอยู่เสมอ

    อ่านเพิ่มเติม

     

    บทความโดย

    หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท